วัตถุที่เป็นแม่เหล็กจะมีสนามแม่เหล็กอยู่โดยรอบแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อขั้วแม่เหล็กจะมีทิศพุ่งเข้าหาหรือออกจากขั้วแม่เหล็กที่เป็นแหล่งของสนามแม่เหล็ก ขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามแม่เหล็กนั้น ๆ จะมีค่าลดลง เมื่อวัตถุอยู่ห่างจากแหล่งของสนามแม่เหล็กมากขึ้น
วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าทั้งประจุบวกและประจุลบเป็นแหล่งของสนามไฟฟ้า โดยสนามไฟฟ้ามีทิศทางพุ่งออกจากแหล่งสนามที่มีประจุบวกและมีทิศทางพุ่งเข้าหาแหล่งสนามที่มีประจุลบ ทั้งนี้ แรงไฟฟ้าที่กระทำต่อประจุบวกจะมีทิศทางเดียวกับทิศทางของสนามไฟฟ้า ส่วนทิศทางของแรงไฟฟ้าที่กระทำต่อประจุลบจะมีทิศตรงข้ามกับทิศทางของสนามไฟฟ้า วัตถุที่มีมวลจะเป็นแหล่งของสนามโน้มถ่วง โดยสนามโน้มถ่วงมีทิศทางเข้าหาจุดศูนย์กลางมวลที่เป็นแหล่งของสนามโน้มถ่วง ทั้งนี้แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุมีทิศทางเดียวกับทิศทางของสนาม
ตัวชี้วัด
ม.2/11 เปรียบเทียบแหล่งของสนามแม่เหล็กสนามไฟฟ้าและสนามโน้มถ่วง และทิศทาง ของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในแต่ละสนามจากข้อมูลที่รวบรวมได้
ม.2/12 เขียนแผนภาพแสดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K)
- ระบุแหล่งของสนามแม่เหล็กและทิศทางของสนามแม่เหล็ก
2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
- การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป โดยตีความหมายข้อมูลจากตารางแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อแผ่นเหล็กและกราฟความสัมพันธ์ระหว่างขนาดแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสารแม่เหล็กกับระยะห่างจากแท่งแม่เหล็กและสรุปแนวโน้มหรือความสัมพันธ์ของข้อมูล
3. ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A)
- อยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้นในการสืบเสาะหาความรู้ตามที่สงสัยในการทำกิจกรรม
วิธีการ
1. สังเกตจากการตอบคำถามในชั้นเรียนและใบงาน
2. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทำกิจกรรม
3. สังเกตคุณลักษณะเจตคติ ค่านิยม
4. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เครื่องมือ
1. แบบประเมินความรู้ความเข้าใจ
2. แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3. แบบสังเกตคุณลักษณะเจตคติ ค่านิยม
4. แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
5. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์