ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กัน ถ้าความต่างศักย์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น กระแสไฟฟ้าก็จะเพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้้ามีค่าคงที่ เรียกค่าคงที่นี้ว่า ความต้านทานไฟฟ้า ซึ่งความสัมพันธ์ของกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า สามารถเขียนเป็นสมการคือ V=IR
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
- วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- การวัด วัดปริมาณทางไฟฟ้าโดยใช้เครื่องมือวัดปริมาณทางไฟฟ้า พร้อมทั้งระบุหน่วยของปริมาณที่วัด
- การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล โดยนำข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณทางไฟฟ้าที่วัดได้มาเขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
- การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป โดยแปลความหมายข้อมูลและสรุปเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
- การใช้จำนวน โดยคำนวณหาปริมาณทางไฟฟ้าจากความสัมพันธ์ของปริมาณทางไฟฟ้าโดยใช้สมการ V=IR ด้านจิตวิทยาศาสตร์
- ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน โดยพยายามสืบเสาะค้นหาหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ได้จากการสังเกต เพื่อใช้สนับสนุนการอธิบายความสัมพันธ์ของกระแสไฟฟ้าและความต่างศักยไฟฟ้า และความต้านทานของตัวนำไฟฟ้า
- ความมุ่งมั่นอดทน ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำกิจกรรมเพื่อให้ได้หลักฐาน นำ ไปสู่การอธิบายหรือลงข้อสรุป
สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
- การจัดการตนเอง โดยระบุเป้าหมายการทำงานตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบภายในกลุ่ม ทำงานตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง และบริหารจัดการงานและเวลา
- การรวมพลังทำงานเป็นทีม โดยมีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานเป็นทีม มีการสะท้อนการทำงานและให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงาน
- การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลจากผลการทำกิจกรรม และลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า
วิธีการ
1. ตอบคำถามในใบงาน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้าของตัวนำไฟฟ้าอย่างถูกต้อง
2. การคำนวณปริมาณทางไฟฟ้าในใบงานอย่างถูกต้อง
3. การวัดจากการบันทึกผลการทำกิจกรรม โดยใช้เครื่องมือวัดปริมาณทางไฟฟ้า ออกมาเป็นตัวเลขได้ ถูกต้องและรวดเร็วและ ระบุหน่วยได้ถูกต้อง
4. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล จากการบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบงาน โดยนำผลการวัดกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า มาเขียนกราฟเพื่อวิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ของกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้าของตัวนำไฟฟ้าได้
5. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการตอบคำถามในใบงาน โดยแปลความหมายข้อมูลและสรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้าของตัวนำไฟฟ้าได้
6. การใช้จำนวน จากการตอบคำถามในใบงาน โดยคำนวณหาปริมาณทางไฟฟ้าจากความสัมพันธ์ของปริมาณทางไฟฟ้าโดยใช้สมการ V=IR
7. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความพยายามสืบเสาะค้นหาหลักฐานเชิงประจักษ์ และนำหลักฐานจากการสังเกตไปสนับสนุนการลงข้อสรุป ในการทำงานระหว่างทำกิจกรรม
8. ความมุ่งมันอดทน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความมุ่งมั่นอดทนในการทำงานระหว่างทำกิจกรรม และทำให้งานประสบความสำเร็จ
9. การจัดการตนเอง จากการสังเกตพฤติกรรมระหว่างการทำงานและการบันทึกผลการทำกิจกรรมที่สะท้อนการเข้าใจเป้าหมายการทำงาน รับผิดชอบการทำงานของตนเองตามบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม มีวินัยในการทำงานจนบรรลุเป้าหมายที่ตนเองได้รับ
10. การรวมพลังทำงานเป็นทีม จากการสังเกตพฤติกรรมระหว่างการทำงานและการบันทึก ผลการทำกิจกรรม ที่สะท้อนการมีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานจนบรรลุเป้าหมาย ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสะท้อนการทำงานให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงาน โดยยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างภายในกลุ่ม
11. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามในใบงาน ซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลจากผลการทำกิจกรรมและลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้าที่สะท้อนความสัมพันธ์ของข้อมูลหรือหลักฐานได้
เครื่องมือ
1. ใบกิจกรรมที่ 1 การใช้เครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้าและหน่วยของกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างไร
2. ใบงานที่ 1 การใช้เครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้าและหน่วยของกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างไร