สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

 องค์ประกอบลมฟ้าอากาศที่สำคัญอีกหนึ่งองค์ประกอบ คือ ฝน หยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่ ฝน ปริมาณฝนสามารถตรวจวัดได้โดยใช้เครื่องวัดฝน ปริมาณฝนในแต่ละพื้นที่และแต่ละช่วงเวลาในรอบปีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณและชนิดของเมฆ ลักษณะของพื้นที่และฤดู

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้

 1. อธิบายวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน
 2. บอกผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก และแนวทางแก้ไขหรือการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น
 ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
 
1. การสังเกต การใช้ประสาทสัมผัสเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณฝน
 2. การวัด ในการหาปริมาณของสิ่งต่าง ๆ จากเครื่องมือที่เลือกใช้ออกมาเป็นตัวเลขได้ถูกต้องและรวดเร็วและ ระบุหน่วยของการวัดได้ถูกต้อง
 3. การลงความเห็นจากข้อมูล เกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 4. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป เกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 ด้านจิตวิทยาศาสตร์
 
1. ความรอบคอบ ความละเอียดถี่ถ้วนในการทำกิจกรรม การวางแผนการทำกิจกรรม รวมถึงการทำงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
 2. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน โดยใช้หลักฐานที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลมาใช้สนับสนุนการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 3. ความซื่อสัตย์ ในการเก็บรวบรวมหลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามความเป็นจริง
 4. วัตถุวิสัย การแปลความหมายข้อมูลให้สอดคล้องกับหลักฐานหรือข้อมูลอย่างเที่ยงตรง ไม่มีอคติ ไม่นำความเชื่อส่วนตัวหรือไม่ใส่ข้อคิดเห็นของตนเองในการแปลความหมายข้อมูล

 5. ความมุ่งมั่นอดทน โดยมุ่งมั่นตั้งใจในการทำกิจกรรม เพื่อให้ได้หลักฐานนำไปสู่การอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก

 ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
 
1. การสื่อสาร โดยใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำเสนอและอธิบายวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม ในการสื่อสาร การช่วยเหลือกันในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะและการตัดสินใจร่วมกัน
 3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้มาใช้แปลความหมายและอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ในการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก

การวัดผลและประเมินผล

8.1 วิธีการ

ด้านความรู้ โดยประเมินจาก

1. การอภิปรายและตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 2. การบันทึกผลการทำกิจกรรมเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก ในใบงานที่ 1
3. การบันทึกผลการทำกิจกรรมเกี่ยวกับผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก ในใบงานที่ 2
 4. การนำเสนอข้อมูลวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก

 1. การสังเกต จากการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณฝน โดยไม่เพิ่มเติมความคิดเห็น
 2. การวัด จากการใช้เครื่องมือในการวัดปริมาตรน้ำและระบุหน่วยได้ถูกต้อง
 3. การลงความเห็นจากข้อมูล จากความสามารถในการบอกวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก
 4. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล การอภิปราย การตอบคำถามและลงข้อสรุปเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มากได้ด้วยตนเองหรือจากการชี้แนะของครู

 ด้านจิตวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก    
 1. ความรอบคอบ จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความละเอียดถี่ถ้วนในการทำกิจกรรม การวางแผนการทำกิจกรรม การตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงการทำงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
 2. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน จากการนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและจากการรวบรวมมาใช้สนับสนุนการอธิบายวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มากได้อย่างสมเหตุสมผล
 3. ความซื่อสัตย์ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรม การนำเสนอข้อมูลหรือผลการทำกิจกรรมตามผลที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงถึงแม้จะแตกต่างจากผู้อื่น
 4. วัตถุวิสัย จากการแปลความหมายข้อมูลโดยใช้หลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามผลการทำ
กิจกรรมที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงและอย่างมีเหตุและผล
 5. ความมุ่งมั่นอดทน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความตั้งใจในการทำกิจกรรม การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนดและตรงต่อเวลา อดทนแม้การทำกิจกรรมจะมีปัญหาและใช้เวลา
 ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน โดยประเมินจาก          
 1. การสื่อสาร จากการ ใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการอธิบายวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มากให้เข้าใจง่ายและถูกต้อง
 2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม จากการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการทำกิจกรรม การช่วยเหลือเพื่อนในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะในขณะทำกิจกรรม และใช้การตัดสินใจเป็นทีมแบบฉันทามติ
 3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มาก โดยใช้หลักฐานหรือข้อมูลที่รวบรวมได้มาสนับสนุนคำอธิบายได้ถูกต้อง
 4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูล ซึ่งมีการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การอภิปราย และจากการรวบรวมข้อมูลในการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวัดปริมาณฝนโดยใช้เครื่องวัดฝน และผลกระทบจากปริมาณฝนที่มากได้อย่างถูกต้องและสมเหตุสมผล

 8.2 เครื่องมือ
1. ใบงานที่ 2 เครื่องวัดฝน
 2. ใบงานที่ 3 สำรวจปริมาณฝนในท้องถิ่น

ปีการศึกษา 2567 / 2
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วย หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ลมฟ้าอากาศ
ชั่วโมง ลมฟ้าอากาศ
เรื่อง ฝน (2) 27 ก.พ. 68 (มีใบงาน)