องค์ประกอบลมฟ้าอากาศที่สำคัญอีกหนึ่งองค์ประกอบ คือ ความกดอากาศ อากาศมีแรงดันเท่ากันทุกทิศทาง แรงที่อากาศกระทำต่อหน่วยพื้นที่ เรียกว่า ความดันอากาศ นักอุตุนิยมวิทยาเรียกความดันอากาศว่า ความกดอากาศ ความดันอากาศขึ้นกับความหนาแน่นของอากาศ โดยบริเวณผิวโลกมีความหนาแน่นของอากาศมากกว่าบริเวณที่อยู่สูงขึ้นไป จึงส่งผลให้ความดันของอากาศมีค่าลดลงเมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้น
ด้านความรู้
อธิบายแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1. การสังเกต การใช้ประสาทสัมผัสเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับภาพและการเปลี่ยนแปลงเมื่อดึงถุงพลาสติกออกจากขวดในลักษณะต่าง ๆ
2. การลงความเห็นจากข้อมูล เกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
3. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป เกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
1. ความรอบคอบ ความละเอียดถี่ถ้วนในการทำกิจกรรม การวางแผนการทำกิจกรรมรวมถึงการทำงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
2. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน โดยใช้หลักฐานที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลมาใช้สนับสนุนการอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
3. ความซื่อสัตย์ ในการเก็บรวบรวมหลักฐาน หรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามความเป็นจริง
4. วัตถุวิสัย การแปลความหมายข้อมูลให้สอดคล้องกับหลักฐานหรือข้อมูลอย่างเที่ยงตรง ไม่มีอคติ ไม่นำความเชื่อส่วนตัวหรือไม่ใส่ข้อคิดเห็นของตนเองในการแปลความหมายข้อมูล
5. ความมุ่งมั่นอดทน โดยมุ่งมั่นตั้งใจในการทำกิจกรรม เพื่อให้ได้หลักฐานนำไปสู่การอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
1. การสื่อสาร โดยใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำเสนอและอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม ในการสื่อสาร การช่วยเหลือกันในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะและการตัดสินใจร่วมกัน
3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้มาใช้แปลความหมายและอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ในการอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
8.1 วิธีการ
ด้านความรู้ โดยประเมินจาก
1. การอภิปรายและตอบคำถามเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
2. การบันทึกผลการทำกิจกรรมเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุในใบงานที่ 1 อากาศมีแรงกระทำต่อวัตถุอย่างไร
3. การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ
ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก
1. การสังเกต จากการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับภาพและการเปลี่ยนแปลง เมื่อดึงถุงพลาสติกออกจากขวดใน ลักษณะต่าง ๆ โดยไม่เพิ่มเติมความคิดเห็น
2. การลงความเห็นจากข้อมูล จากความสามารถในการอธิบายแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อถุงพลาสติกได้ว่า อากาศมีแรงกระทำต่อถุงพลาสติกในทุกทิศทุกทาง
3. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลที่ได้จากการสังเกต
การรวบรวมข้อมูล การอภิปราย การตอบคำถามและลงข้อสรุปเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ ได้ด้วยตนเองหรือจากการชี้แนะของครู
ด้านจิตวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก
1. ความรอบคอบ จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความละเอียดถี่ถ้วนในการทำกิจกรรม การวางแผน
การทำกิจกรรม การตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงการทำงานอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย
2. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน จากการนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและจากการรวบรวมมาใช้สนับสนุนการอธิบายแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุได้อย่างสมเหตุสมผล
3. ความซื่อสัตย์ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรม การนำเสนอข้อมูลหรือผลการทำกิจกรรมตามผลที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงถึงแม้จะแตกต่างจากผู้อื่น
4. วัตถุวิสัย จากการแปลความหมายข้อมูลโดยใช้หลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามผลการทำกิจกรรมที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงและอย่างมีเหตุและผล
5. ความมุ่งมั่นอดทน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความตั้งใจในการทำกิจกรรม การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนดและตรงต่อเวลา อดทนแม้การทำกิจกรรมจะมีปัญหาและใช้เวลา
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน โดยประเมินจาก
1. การสื่อสาร จากการใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ ต่าง ๆ ในการอธิบายแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุให้เข้าใจง่ายและถูกต้อง
2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม จากการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการทำกิจกรรม การช่วยเหลือเพื่อนในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะในขณะทำกิจกรรมและใช้การตัดสินใจเป็นทีมแบบฉันทามติ
3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุ โดยใช้หลักฐานหรือข้อมูลที่รวบรวมได้มาสนับสนุนคำอธิบายได้ถูกต้อง
4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูล ซึ่งมีการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การอภิปรายและจากการรวบรวมข้อมูลในการอธิบายเกี่ยวกับแรงและทิศทางของแรงที่อากาศกระทำต่อวัตถุได้อย่างสมเหตุสมผล
8.2 เครื่องมือ
1. ใบกิจกรรมที่ 1 อากาศมีแรงกระทำต่อวัตถุอย่างไร
2. ใบงานที่ 1 อากาศมีแรงกระทำต่อวัตถุอย่างไร