วัตถุที่มีมวลจะเป็นแหล่งของสนามโน้มถ่วง โดยสนามโน้มถ่วงมีทิศทางเข้าหาจุดศูนย์กลางมวลที่เป็นแหล่งของสนามโน้มถ่วง ทั้งนี้แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุมีทิศทางเดียวกับทิศทางของสนามโน้มถ่วง
ขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามนั้น ๆ จะมีขนาดลดลงเมื่อวัตถุอยู่ห่างจากแหล่งของสนามมากขึ้น
ตัวชี้วัด
ว 2.2 ม.2/6 – 2/8
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
๑. ระบุแหล่งของสนามโน้มถ่วง
๒. ระบุทิศทางของสนามโน้มถ่วง
๓. ระบุทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามโน้มถ่วง
๔. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามโน้มถ่วง กับระยะห่างระหว่างแหล่งของสนามถึงวัตถุได้
๕. เปรียบเทียบแหล่งของสนามไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก สนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัถุที่อยู่ในแต่ละสนาม
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. การสังเกต โดยสังเกตขนาดของแรงและทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามโน้มถ่วง
๒. การวัด โดยวัดระยะเพื่อระบุตำแหน่งและความยาวเชือก
๓. การสร้างแบบจำลอง โดยเขียนแผนภาพแสดงทิศทางของสนามโน้มถ่วง พร้อมทั้งเขียนแผนภาพแสดงขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนามโน้มถ่วง
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
๑. มุ่งมั่นในการทำงาน โดย ตั้งใจและรับผิดชอบทำกิจกรรมสำเร็จ
๒. ใฝ่เรียนรู้ โดยเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
๓. วัตถุวิสัย โดยแปลความหมายข้อมูลสอดคล้องกับหลักฐานอย่างเที่ยงตรง
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
๑. การสื่อสารโดยนำเสนอผลการทำกิจกรรมด้วยรูปแบบและวิธีการที่เข้าใจง่าย ประเมินจุดเด่นและข้อควรปรับปรุงของการนำเสนอ พร้อมเสนอแนะแนวทางปรับปรุง
๒. การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยระบุแหล่งของสนามของแรง และใช้สัญลักษณ์และแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนามของแรงเพื่ออธิบายสนามของแรง
๓. การแปลความหมายข้อมูลและใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยวิเคราะห์และแปลงความหมายข้อมูลจากข้อมูลที่มีและข้อมูลจากการทำกิจกรรม และลงข้อสรุปเกี่ยวกับแหลงของสนามของแรง ทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนาม และความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนาม กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุ
ด้านความรู้
ประเมินจาก
๑. การตอบคำถามในใบงาน และการทำแบบฝึกหัด อธิบายเกี่ยวกับสนามโน้มถ่วง แหล่งสนาม ทิศทางของสนาม และแรงกระทำต่อวัตถุในสนาม และความสัมพันธ์ของแรงกระทำกับระยะห่างของวัตถุจากแหล่งสนามได้ถูกต้อง
๒. การตอบคำถามในใบงาน และการทำแบบฝึกหัด อธิบายเปรียบเทียบแหล่งสนาม และทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง ได้ถูกต้อง
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ประเมิน
๑. การสังเกต จากการบันทึกผล ได้อย่างละเอียด และไม่ใส่ความเห็นของผู้สังเกตลงไป
๒. การวัด จากการบันทึกผล ใช้เครื่องมือวัดขนาดของแรง ระยะห่างระหว่างวัตถุกับแหล่งสนามโน้มถ่วง และระบุค่าที่วัดได้อย่างเหมาะสม
๓. การสร้างแบบจำลอง จากการบันทึกและตอบคำตอบในใบงาน ใช้แผนภาพและสัญลักษณ์แสดงลักษณะสนามโน้มถ่วง ขนาดและทิศทางของแรง วัตถุ และแหล่งสนามโน้มถ่วง เพื่ออธิบายปฏิสัมพันธ์ในสนามโน้มถ่วงให้เข้าใจได้ถูกต้อง
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
ประเมิน
๑. ความมุ่งมั่นในการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงความมุ่งมั่นอดทนเพื่อทำงานระหว่างกิจกรรม และทำให้งานประสบความสำเร็จ
๒. ใฝ่เรียนรู้ จากการสังเกตพฤติกรรมที่กระตือรือร้น ให้ความสนใจสิ่งต่าง ๆ และหาทางสืบเสาะหาคำตอบสิ่งที่สงสัย
๓. วัตถุวิสัย จากการบันทึกผลและการตอบคำถามในใบงานที่สะท้อนความสอดคล้องของหลักฐานอย่างเที่ยงตรง
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
ประเมิน
๑. การสื่อสาร จากพูดคุย อภิปราย และการนำเสนอผลกิจกรรมที่มีรูปแบบและวิธีการที่เข้าใจง่าย ประเมินจุดเด่นและปรับปรุงข้อควรปรับปรุง
๒. การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการระบุแหล่งสนามของแรง ใช้สัญลักษณ์แผนภาพแสดงแรงและทิศทางของแรงในสนาม และการอธิบาย
สนามของแรง การบันทึกข้อมูลและตอบคำถามในใบงาน และการนำเสนอผลการทำกิจกรรม
๓. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลที่มี และลงข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งสนาม แรงที่กระทำในสนาม และความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงกับระยะห่างจากแหล่งสนาม
- ใบกิจกรรมที่ 3 สนามโน้มถ่วงและแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นอย่างไร
- ใบงานที่ 3 สนามโน้มถ่วงและแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นอย่างไร
- ใบความรู้ที่ 1 สนามของแรง