วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าทั้งประจุบวกและประจุลงเป็นแหล่งของสนามไฟฟ้า โดยสนามไฟฟ้ามีทิศทางพุ่งออกจากแหล่งสนามที่มีประจุบวก และมีทิศทางพุ่งเข้าหาแหล่งสนามที่มีประจุลบ
ทั้งนี้แรงไฟฟ้าที่กระทำต่อประจุบวกจะมีทิศทางเดียวกับทิศทางของสนามไฟฟ้า ส่วนทิศทางของแรงไฟฟ้าที่กระทำต่อประจุลบจะมีทิศทางตรงข้ามกับทิศทางของสนามไฟฟ้า
ตัวชี้วัด
ว 2.2 ม.2/6 – 2/8
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
๑. ระบุแหล่งของสนามไฟฟ้า
๒. ระบุทิศทางของสนามไฟฟ้า
๓. ระบุทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามไฟฟ้า
๔. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามไฟฟ้ากับระยะห่างจากแหล่งของสนามไฟฟ้าถึงวัตถุ
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. การสังเกต โดยสังเกตขนาดของแรงและทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามไฟฟ้า
๒. การวัด โดยวัดความยาวเพื่อระบุขนาดของแรงไฟฟ้าที่กระทำต่อวัตถุ
๓. การสร้างแบบจำลอง โดย เขียนแผนภาพแสดงทิศทางของสนามไฟฟ้า พร้อมทั้งเขียนแผนภาพแสดงขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนามไฟฟ้า
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
๑. มุ่งมั่นในการทำงาน โดย ตั้งใจและรับผิดชอบทำกิจกรรมสำเร็จ
๒. ใฝ่เรียนรู้ โดยเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
๓. วัตถุวิสัย โดยแปลความหมายข้อมูลสอดคล้องกับหลักฐานอย่างเที่ยงตรง
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
๑. การสื่อสารโดยนำเสนอผลการทำกิจกรรมด้วยรูปแบบและวิธีการที่เข้าใจง่าย ประเมินจุดเด่นและข้อควรปรับปรุงของการนำเสนอ พร้อมเสนอแนะแนวทางปรับปรุง
๒. การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยระบุแหล่งของสนามของแรง และใช้สัญลักษณ์และแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนามของแรงเพื่ออธิบายสนามของแรง
๓. การแปลความหมายข้อมูลและใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยวิเคราะห์และแปลงความหมายข้อมูลจากข้อมูลที่มีและข้อมูลจากการทำกิจกรรม และลงข้อสรุปเกี่ยวกับแหลงของสนามของแรง ทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนาม และความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุในสนาม กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุ
ด้านความรู้
ประเมินจาก
การตอบคำถามในใบงาน อธิบายเกี่ยวกับสนามไฟฟ้า แหล่งสนาม ทิศทางของสนาม และแรงกระทำต่อวัตถุในสนาม และความสัมพันธ์ของแรงกระทำกับระยะห่างของวัตถุจากแหล่งสนามได้ถูกต้อง
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ประเมิน
๑. การสังเกต จากการบันทึกผล ได้อย่างละเอียด และไม่ใส่ความเห็นของผู้สังเกตลงไป
๒. การวัด จากการบันทึกผล ใช้เครื่องมือวัดความยาว ระยะห่างระหว่างวัตถุกับแหล่งสนามไฟฟ้า และระบุค่าที่วัดได้อย่างเหมาะสม
๓. การสร้างแบบจำลอง จากการบันทึกและตอบคำตอบในใบงาน มีการใช้แผนภาพและสัญลักษณ์แสดงลักษณะและผลของแรง เพื่ออธิบายปฏิสัมพันธ์ของสนามไฟฟ้า แรงกระทำ และวัตถุ ให้เข้าใจได้ถูกต้อง
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
ประเมิน
๑. ความมุ่งมั่นในการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงความมุ่งมั่นอดทนเพื่อทำงานระหว่างกิจกรรม และทำให้งานประสบความสำเร็จ
๒. ใฝ่เรียนรู้ จากการสังเกตพฤติกรรมที่กระตือรือร้น ให้ความสนใจสิ่งต่าง ๆ และหาทางสืบเสาะหาคำตอบสิ่งที่สงสัย
๓. วัตถุวิสัย จากการบันทึกผลและการตอบคำถามในใบงานที่สะท้อนความสอดคล้องของหลักฐานอย่างเที่ยงตรง
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
ประเมิน
๑. การสื่อสาร จากพูดคุย อภิปราย และการนำเสนอผลกิจกรรมที่มีรูปแบบและวิธีการที่เข้าใจง่าย ประเมินจุดเด่นและปรับปรุงข้อควรปรับปรุง
๒. การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการระบุแหล่งสนามของแรง ใช้สัญลักษณ์แผนภาพแสดงแรงและทิศทางของแรงในสนาม และการอธิบายสนามของแรง การบันทึกข้อมูลและตอบคำถามในใบงาน และการนำเสนอผลการทำกิจกรรม
๓. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลที่มี และลงข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งสนาม แรงที่กระทำในสนาม และความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงกับระยะห่างจากแหล่งสนาม
- ใบกิจกรรมที่ 2 สนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าเป็นอย่างไร
- ใบงานที่ 2 สนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าเป็นอย่างไร