แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ ปริมาณน้ำในแต่ละฤดู ปริมาณฝนที่ตกลงในพื้นที่
ระยะเวลาของการกัดเซาะของน้ำในพื้นที่ ภูมิประเทศ และโครงสร้างทางธรณีวิทยาของหินในพื้นที่ ตลอดจน ขนาดของดิน หิน แร่
หรือตะกอนซึ่งมีขนาดเท่ากัน
ตัวชี้วัด
ว 2.3 ม.2/8
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
อธิบายกระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดินจากแบบจําลอง
2. ระบุปัจจัยที่ทําให้แหล่งน้ำผิวดินในแต่ละ แหล่งมีลักษณะแตกต่างกันจากแบบจําลอง
ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1. การสังเกต เกี่ยวกับลักษณะของกองตะกอน ชนิดเดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำด้วยระยะ เวลาที่แตกต่างกัน และลักษณะของกองตะกอนต่างชนิดกันที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่ากัน
2. การพยากรณ์ เกี่ยวกับลักษณะของกองตะกอนชนิดเดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน และลักษณะของกองตะกอนต่างชนิดกันที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่ากัน
3. การลงความเห็นจากข้อมูล เกี่ยวกับลักษณะของกองตะกอนที่เกิดจากการปล่อยน้ำลงบนกองตะกอนด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน และด้วยชนิดของกองตะกอนที่แตกต่างกันจากแบบจำลอง
4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป จากการสังเกต จากการรวบรวมข้อมูล จากการอภิปรายและจากการสร้างแบบจําลอง เกี่ยวกับ กระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดินและปัจจัยที่ทําให้แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน
5. การสร้างแบบจำลองเพื่ออธิบายกระบวนการ เกิดแหล่งน้ำผิวดิน และปัจจัยที่ทําให้แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
1. การจัดการตนเอง โดยกํากับหรือพาตนเอง ให้ลงมือทํากิจกรรมที่ได้กําหนดไว้ มีความ พยายาม อดทน และมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมให้สําเร็จ
2. อธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการใช้ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและจากการ สร้างแบบจําลองมาใช้แปลความหมายและอธิบาย เกี่ยวกับกระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดินและปัจจัยที่ทำให้แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน
3. การประเมินและออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสํารวจตรวจสอบเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงของกองตะกอนชนิดเดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน และการเปลี่ยนแปลงของกองตะกอนต่างชนิดกันที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่ากัน
วิธีการ
ด้านความรู้
1. การตอบคำถามในใบงาน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของกองตะกอน และปัจจัยที่ทำให้แหล่งน้ำผิวดินในแต่ละแหล่งมีลักษณะแตกต่างกัน รวมถึงการเชื่อมโยงความรู้จากการทำกิจกรรมไปสู่ปรากฏการณ์ในธรรมชาติ
2. การนำเสนอผลการทำกิจกรรมเกี่ยวกับกระบวนการเกิดแหล่งนํา้ผิวดิน และปัจจัย ที่ทําให้แหล่งน้ําผิวดินแต่ละแหล่งมีลักษณะแตกต่างกัน
ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
โดยประเมินจาก
1. การใช้ประสาทสัมผัสเก็บรายละเอียด เกี่ยวกับลักษณะของกองตะกอนชนิดเดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำ ด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน และลักษณะของกองตะกอนต่างชนิดกัน ที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่า กัน โดยไม่เพิ่มเติมความคิดเห็น
2. การคาดการณ์ลักษณะของตะกอนชนิด เดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน และลักษณะของกองตะกอนต่างชนิดกันที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่ากัน โดยอาศัยข้อมูล หรือความรู้ที่มีอยู่ได้อย่างสมเหตุสมผลและครบถ้วน
3. การลงความเห็นจากข้อมูลได้ว่า การปล่อย น้ำลงบนกองทรายและกองกรวดจะทำให้กองตะกอนถูกกัดเซาะ ซึ่งลักษณะของกองตะกอนที่ถูกกัดเซาะจะแตกต่างกันตามระยะเวลาที่ปล่อยน้ำลงบนกองตะกอนและตามชนิดของกองตะกอนที่แตกต่างกัน
4. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป จากการรวบรวมข้อมูล การอภิปราย และการสร้างแบบจำลองได้ด้วยตนเองหรือจาก การชี้แนะของครูได้ว่า แหล่งน้ำผิวดินแต่ละ แหล่งอาจมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันขึ้น อยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ตามธรรมชาติ
5.การสร้างแบบจำลอง จากการใช้แบบจำลองอธิบายกระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดิน และปัจจัยที่ทําให้แหล่งน้ำผิวดินในแต่ละแหล่งมีลักษณะแตกต่างกัน
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
โดยประมินจาก
4. วัตถุวิสัย จากการแปลความหมายข้อมูลโดยใช้หลักฐาน หรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามผลการทํากิจกรรมที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริง และอย่างมีเหตุผล
5. ความมุ่งมั่นอดทน จากพฤติกรรมที่แสดงถึงความตั้งใจในการทำ กิจกรรม ให้เสร็จตามกำหนด อดทนต่อปัญหา
ด้านสมรรถนะ
โดยประเมินจาก
1. การจัดการตนเองจากการทำกิจกรรมและนําเสนอผลการทำกิจกรรมได้เสร็จทันเวลาที่กำหนด
2. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามในใบงาน และการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเกิด แหล่งน้ำผิวดินและปัจจัยที่ทำให้แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน
3. การประเมินและออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จากการระบุตัวแปรที่ใช้ในการสำรวจตรวจสอบเกี่ยวกับกองตะกอนชนิดเดียวกันที่ถูกกัดเซาะจากน้ำด้วยระยะเวลาที่แตก ต่างกัน และลักษณะของกองตะกอนต่างชนิดกันที่ถูกกัดเซาะด้วยปริมาณน้ำเท่ากัน
4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามในใบงาน ซึ่งมีการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปอย่างสมเหตุสม ผลจากข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและจากการสร้างแบบจำลองในการอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการ
เกิดแหล่งน้ำผิวดิน และปัจจัย ที่ทําให้แหล่งน้ำผิวดินแต่ละแหล่งมีลักษณะ แตกต่างกัน
เครื่องมือ
- ใบกิจกรรมที่ 1 ปัจจัยใดที่ทำให้แหล่งน้ำผิวดินมีลักษณะแตกต่างกัน