สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

 พายุฝนฟ้าคะนองเกิดจากการที่อากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูงเคลื่อนที่ขึ้นสู่ระดับความสูงที่มีอุณหภูมิต่ำลง จนกระทั่งไอน้ำในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้ำ และเกิดต่อเนื่องเป็นเมฆขนาดใหญ่ พายุฝนฟ้าคะนองทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ฟ้าแลบฟ้าผ่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน พายุหมุนเขตร้อนเกิดเหนือมหาสมุทรหรือทะเลที่น้ำมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 26 องศาเซลเซียสขึ้นไป ทำให้อากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูงบริเวณนั้นเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้าง อากาศจากบริเวณอื่นเคลื่อนเข้ามาแทนที่และพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ยิ่งใกล้ศูนย์กลางอากาศจะเคลื่อนที่พัดเวียนเกือบเป็นวงกลมและมีอัตราเร็วสูงที่สุด พายุหมุนเขตร้อนทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง ฝนตกหนัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงควรปฏิบัติตนให้ปลอดภัยโดยติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศ และไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้

 อธิบายผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1. การลงความเห็นจากข้อมูล เกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
2. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป เกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
1. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน โดยใช้หลักฐานที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลมาใช้สนับสนุนการอธิบายเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
2. ความซื่อสัตย์ ในการเก็บรวบรวมหลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามความเป็นจริง
3. วัตถุวิสัย การแปลความหมายข้อมูลให้สอดคล้องกับหลักฐานหรือข้อมูลอย่างเที่ยงตรง ไม่มีอคติ ไม่นำความเชื่อส่วนตัวหรือไม่ใส่ข้อคิดเห็นของตนเองในการแปลความหมายข้อมูล
4. ความมุ่งมั่นอดทน โดยมุ่งมั่นตั้งใจในการทำกิจกรรม เพื่อให้ได้หลักฐานนำไปสู่การอธิบายเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน

ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
1. การสื่อสาร โดยใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำเสนอและอธิบายผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม ในการสื่อสาร การช่วยเหลือกันในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะและการตัดสินใจร่วมกัน
3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้มาใช้แปลความหมายและอธิบายเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ในการอธิบายเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน

 

 

การวัดผลและประเมินผล

8.1 วิธีการ

ด้านความรู้ โดยประเมินจาก

1. การอภิปรายและการตอบคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
2. การบันทึกผลการทำกิจกรรมเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน ในใบงานที่ 2
3. การนำเสนอข้อมูลผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก

1. การลงความเห็นจากข้อมูล จากความสามารถในการบอกผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน
2. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลที่ได้จากการรวบรวม ข้อมูล การอภิปราย การตอบคำถามและลงข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนได้ด้วยตนเองหรือจากการชี้แนะของครู

ด้านจิตวิทยาศาสตร์ โดยประเมินจาก     
1. ความเชื่อมั่นต่อหลักฐาน จากการนำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมมาใช้สนับสนุนการอธิบายผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนได้อย่างสมเหตุสมผล
2. ความซื่อสัตย์ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรม การนำเสนอข้อมูลหรือผลการทำกิจกรรมตามผลที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงถึงแม้จะแตกต่างจากผู้อื่น
3. วัตถุวิสัย จากการแปลความหมายข้อมูลโดยใช้หลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ จากการทำกิจกรรมตามผลการทำ
กิจกรรมที่ได้จริงหรือตามที่ปรากฏจริงและอย่างมีเหตุและผล
4. ความมุ่งมั่นอดทน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความตั้งใจในการทำกิจกรรม การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนดและตรงต่อเวลา อดทนแม้การทำกิจกรรมจะมีปัญหาและใช้เวลา

ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน โดยประเมินจาก
1. การสื่อสาร จากการใช้ภาพ ข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการอธิบายผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนให้เข้าใจง่ายและถูกต้อง
2. การรวมพลังทำงานเป็นทีม จากการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการทำกิจกรรม การช่วยเหลือเพื่อนในขณะทำกิจกรรม การปฏิบัติตามคำชี้แนะในขณะทำกิจกรรมและใช้การตัดสินใจเป็นทีมแบบฉันทามติ
3. การอธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้มาสนับสนุนคำอธิบายได้ถูกต้อง
4. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามและจากการนำเสนอข้อมูล ซึ่งมีการตีความหมายข้อมูล วิเคราะห์และสร้างข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อมูลที่ได้จากการอภิปราย และจากการรวบรวมข้อมูลในการอธิบายเกี่ยวกับผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อนได้อย่างถูกต้องและสมเหตุสมผล
8.2 เครื่องมือ
1. ใบกิจกรรมที่ 2 พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้อย่างไร
2. ใบงานที่ 2 พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้อย่างไร

ปีการศึกษา 2565 / 2
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วย หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ลมฟ้าอากาศ
ชั่วโมง ลมฟ้าอากาศ
เรื่อง พายุ (3) 8 มี.ค. 66