สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

หลักการจัดลำดับความคิดและการนำเสนอเนื้อหาทางประวัติศาสตร์

1. การจัดลำดับความคิดอย่างเป็นระบบการเรียบเรียงเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ควรมีโครงสร้างชัดเจน
โดยเรียงลำดับจากจุดเริ่มต้นไปสู่บทสรุป ดังนี้

• เกริ่นนำ : ใช้วิธีดึงดูดความสนใจ เช่น ตั้งคำถามกระตุ้นความคิด หรือเล่าเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
• เนื้อหาหลัก : แบ่งเนื้อหาออกเป็นประเด็นย่อย เช่น เหตุการณ์สำคัญ สาเหตุ ผลกระทบ บุคคลสำคัญ ฯลฯ
• บทสรุปหรือข้อคิด : สรุปเนื้อหาสำคัญ หรือเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบันเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

2. หลักการสื่อสารเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ให้ชัดเจน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่อไปนี้

• ใช้ถ้อยคำเหมาะสม เข้าใจง่าย ชัดเจน ไม่ซับซ้อน
• เรียบเรียงข้อความอย่างกระชับ ไม่ยืดยาวเกินความจำเป็น
• ใช้คำเชื่อมเหตุผล เช่น “เพราะว่า”, “ดังนั้น”, “ส่งผลให้” เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของเหตุการณ์
• ยกตัวอย่างประกอบ เพื่อเสริมความเข้าใจ
• หากเป็นการพูดควรใช้น้ำเสียงมั่นใจ พูดชัดถ้อยชัดคำ และมีการสบตาอย่างเหมาะสม

3. รูปแบบการนำเสนอเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย ครูสามารถเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน ดังนี้

• การเล่าเรื่อง : เหมาะกับผู้ที่ถ่ายทอดเก่ง ใช้ภาษาน่าสนใจ มีการตั้งคำถามกระตุ้นคิดระหว่างเรื่อง
• การใช้เกมเพื่อการเรียนรู้ : เช่น เกมจับคู่ภาพ - เหตุการณ์ หรือเกมตอบคำถาม โดยต้องมีการอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมภายหลัง
• การใช้คลิปวิดีโอ : คลิปสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 2 - 3 นาที พร้อมคำอธิบายประกอบ และมีการสรุปหลังชม
• การแสดงสั้นหรือการจำลองเหตุการณ์ : เหมาะกับเหตุการณ์ที่มีตัวละครหรือบทสนทนา
  ควรฝึกซ้อมให้เข้าใจเนื้อหา
• การใช้แผนภาพ แผนที่ หรือภาพประกอบ : เช่น แผนที่อาณาจักร วงจรเหตุการณ์ หรือแผนผังความสัมพันธ์ พร้อมคำอธิบายประกอบอย่างชัดเจน

• การพูดต่อหน้าชุมชนหรือการนำเสนอข้อมูลอย่างมืออาชีพ ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การมีความรู้ในเรื่องที่พูดเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการวางแผน การสื่อสาร

           และการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยสามารถแบ่งทักษะสำคัญได้เป็น 5 ด้าน ดังนี้

1. การพูดตามลำดับความคิดที่วางแผนไว้ การพูดที่ดีควรมีการเรียงลำดับเนื้อหาอย่างมีแบบแผน ประกอบด้วย

• การเกริ่นนำที่ชัดเจน เพื่อดึงความสนใจและปูพื้นฐานความเข้าใจให้ผู้ฟัง
• เนื้อหากลางที่ต่อเนื่อง เชื่อมโยงความคิดอย่างลื่นไหล ไม่สับสน
• การสรุปที่กระชับ เพื่อย้ำใจความสำคัญและปิดท้ายอย่างมีพลัง

2. การสื่อสารให้ชัดเจน การพูดที่ผู้ฟังเข้าใจง่ายต้องอาศัยการสื่อสารที่มีคุณภาพ

• ใช้ คำพูดที่เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
• ควบคุม จังหวะการพูด ไม่เร็วหรือช้าเกินไป
• ใช้ น้ำเสียงที่เหมาะสม เพื่อเสริมอารมณ์และความน่าสนใจ

3. การใช้สื่อประกอบการพูด การใช้สื่อช่วยให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• เลือกใช้สื่อ เช่น ภาพ แผนที่ เกม หรือคลิปวิดีโอ ให้เหมาะสมกับเนื้อหา
• จัดวาง ช่วงเวลาในการใช้สื่อ ให้สอดคล้องกับโครงสร้างของการพูด
• ระมัดระวังไม่ให้สื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากสาระสำคัญ

4. การทำงานร่วมกันในทีม เมื่อมีการนำเสนอแบบกลุ่ม สมาชิกทุกคนควรมีบทบาทและทำงานประสานกัน

• การ ส่งไม้พูดอย่างลื่นไหล
• การ ยืนตำแหน่งให้สมดุล และไม่บดบังกัน
• การเตรียม อุปกรณ์และสื่อร่วมกันอย่างรอบคอบ
• การ ให้ข้อเสนอแนะภายในกลุ่ม เพื่อปรับปรุงคุณภาพงาน

5. การปรับปรุงการพูดจากคำแนะนำ เพื่อพัฒนาทักษะการพูดให้ดีขึ้น

• เปิดใจ รับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนและครู
• วิเคราะห์ข้อเสนอแนะเพื่อนำไป ปรับปรุงวิธีการพูดของตน
• ฝึกซ้อมซ้ำเพื่อ พัฒนาคุณภาพการนำเสนอให้ต่อเนื่อง

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้

-เข้าใจหลักการวางแผนการนำเสนอที่ดี เช่น การกำหนดลำดับเนื้อหา การเลือกสื่อ และการแบ่งบทบาท

- อธิบายลำดับการนำเสนอ และหลักการใช้สื่อประกอบให้เหมาะสมกับเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง

ด้านทักษะกระบวนการ

- ร่วมวางแผนการนำเสนอเป็นกลุ่มได้อย่างมีระบบ เหมาะสมกับเนื้อหา และมีการออกแบบสื่อประกอบอย่างสร้างสรรค์

- ฝึกซ้อมการพูดตามบทบาทของตนเองได้อย่างคล่องแคล่ว สื่อสารได้ชัดเจน และใช้สื่อได้ตรงกับเนื้อหา

ด้านคุณลักษณะ

- มีความรับผิดชอบร่วมกันในการวางแผน มีความคิดสร้างสรรค์ เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น และร่วมมือกันอย่างมีส่วนร่วม

- แสดงความตั้งใจและรับผิดชอบต่อบทบาทของตนเองในการซ้อม พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มอย่างเหมาะสม

การวัดผลและประเมินผล

วิธีการ

- ตรวจใบงานที่ 6 เรื่อง วางแผนการนำเสนอ

- ตรวจใบงานที่ 7 เรื่อง ตารางเช็คลิสต์การฝึกซ้อมการนำเสนอ

เครื่องมือ

- ใบงานที่ 6 เรื่อง วางแผนการนำเสนอ

- ใบงานที่ 7 เรื่อง ตารางเช็คลิสต์การฝึกซ้อมการนำเสนอ

เกณฑ์การวัด

- ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป