ผลรวมของพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์เป็นพลังงานกล พลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุหนึ่ง ๆ สามารถเปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ โดยผลรวมของพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์มีค่าคงตัว นั่นคือพลังงานกลของวัตถุมีค่าคงตัว
พลังงานสามารถถ่ายโอนไปยังอีกระบบหนึ่งหรือได้รับพลังงานจากระบบอื่นได้ เช่น การถ่ายโอนความร้อนระหว่างสสาร การถ่ายโอนพลังงานของการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียงไปยังผู้ฟัง ทั้งการเปลี่ยนพลังงานและการถ่ายโอนพลังงาน พลังงานรวมทั้งหมดมีค่าเท่าเดิมตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน
ตัวชี้วัด
ว 2.3 ม.2/5 แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงานระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุโดยพลังงานกลของวัตถุมีค่าคงตัวจากข้อมูลที่รวบรวมได้
ว 2.3 ม.2/6 วิเคราะห์สถานการณ์และอธิบายการเปลี่ยนและถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงาน
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K)
1) อธิบายแนวคิดเกี่ยวกับพลังงานกลและการเปลี่ยนพลังงานระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุ
2) วิเคราะห์สถานการณ์เพื่ออธิบายการเปลี่ยนและการถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงาน
2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
1) การใช้จำนวน โดยคำนวณหาพลังงานจลน์ของวัตถุที่ลดลง พลังงานศักย์โน้มถ่วงของวัตถุที่เพิ่มขึ้น และผลรวมของพลังงานจลน์และพลังงานศักย์โน้มถ่วงของวัตถุแต่ละตำแหน่ง
2) การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป โดยวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานจลน์และพลังงานศักย์โน้มถ่วงเพื่อลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพลังงานจลน์และพลังงานศักย์โน้มถ่วง
3. ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A)
1) ความมุ่งมั่นอดทน โดยตั้งใจและรับผิดชอบในการทำกิจกรรมเพื่อให้ได้หลักฐาน นำไปสู่การอธิบายหรือลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุ
2) ความอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้นในการสืบเสาะค้นหาความรู้เกี่ยวกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน
วิธีการ
1. สังเกตจากการตอบคำถามในชั้นเรียนและใบงาน
2. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทำกิจกรรม
3. สังเกตคุณลักษณะเจตคติ ค่านิยม
4. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เครื่องมือ
1. แบบประเมินความรู้ความเข้าใจ
2. แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3. แบบสังเกตคุณลักษณะเจตคติ ค่านิยม
4. แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
5. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์