ระบำ คือ ศิลปะของการร่ายรำที่แสดงพร้อมกันเป็นหมู่เป็นชุด ความงามของการแสดงระบำ อยู่ที่ความสอดประสานกลมกลืนกัน ด้วยความพร้อมเพรียงกัน การแสดงมีทั้งเนื้อร้องและไม่มีเนื้อร้อง ใช้เพียงดนตรีประกอบ คำว่า "ระบำ" รวมเอา "ฟ้อน" และ "เซิ้ง" เข้าไว้ด้วยกัน เพราะวิธีการแสดงไปในรูปเดียวกัน แตกต่างกันที่วิธีร่ายรำ และการแต่งกายตามระเบียบประเพณีตามท้องถิ่นระบำ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ระบำดั้งเดิมหรือระบำมาตรฐาน และระบำปรับปรุงหรือระบำเบ็ดเตล็ด รำ หมายถึง การแสดงที่มุ่งความงามของการร่ายรำ เป็นการแสดงท่าทางลีลาของผู้รำ โดยใช้มือแขนเป็นหลัก ฟ้อน หมายถึง ศิลปะการแสดงที่เป็นประเพณีของทางภาคเหนือ จะใช้ผู้แสดงเป็นจำนวนมาก มีลีลาการฟ้อนพร้อมเพรียงกันด้วยจังหวะที่ค่อนข้างช้า
ตัวชี้วัด
ศ 3.1 ป.4/1 ระบุทักษะพื้นฐานทางนาฏศิลป์และการละครที่ใช้สื่อความหมายและอารมณ์
หลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป์ ภาษาท่า- นาฏยศัพท์
ป.4/2 ใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครง่าย ๆในการถ่ายทอดเรื่องราว
การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ประกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระราชนิพนธ์
การใช้ศัพท์ทางการละครในการถ่ายทอดเรื่องราว
ป.4/3 แสดงการเคลื่อนไหวในจังหวะต่าง ๆตามความคิดของตน การประดิษฐ์ท่าทางหรือท่าร้า
ประกอบจังหวะพื้นเมือง
ป.4/4 แสดงนาฏศิลป์เป็นคู่และหมู่ การแสดงนาฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่ รำวงมาตรฐาน- ระบำ
ป.4/5 เล่าสิ่งที่ชื่นชอบในการแสดง
ศ 3.2 ป.4/1 อธิบายประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ หรือชุดการแสดงอย่างง่าย ๆ
ความเป็นมาของนาฏศิลป์ การละเล่นของหลวง และที่มาของชุดการแสดง คุณค่าของ
นาฏศิลป์ไทย
ป.4/4 ระบุเหตุผลที่ควรรักษาและสืบทอดการแสดงนาฏศิลป์
ป.4/2 เปรียบเทียบการแสดงนาฏศิลป์กับการแสดงที่มาจากวัฒนธรรมอื่น การชมการแสดง
เปรียบเทียบการนาฏศิลป์ กับการแสดงวัฒนธรรมอื่น
ป.4/3 อธิบายความสำคัญของการแสดงความเคารพในการเรียนและการแสดงนาฏศิลป์
ความเป็นมาของนาฏศิลป์ การทำความเคารพก่อนเรียนและก่อนแสดงนาฏศิลป์
วัตถุประสงค์
1. ความหมาย-ลักษณะความสำคัญ-ฃองการแสดงประเภท ระบำ รำ ฟ้อน
2. การแสดงท่ารำ-ขับร้องตามบทเพลงที่กำหนด
1. สังเกตการตอบคำถาม
2. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรม